~~รหัส : ์NT - 004
ยี่ห้อ : Nutriland
ราคาปกติ : 1,790.00 บาท
รายละเอียดย่อ :
Goat milk ไขมันในนมแพะที่มีบทบาทต่อระบบภูมิต้านทาน คือ กรดไขมันจำเป็นซึ่งได้แก่กรดไขมันลิโนเลอิค ซึ่งในน้ำนมแพะมีสูงถึง 0.95 กรัม/100 กรัม และกรดไขมันจำเป็น แอลฟาลิโนเลอิค (กลุ่มโอเมก้า3 ซึ่งในนมแพะมี อยู่ประมาณ 0.03 กรัม/ 100 กรัม) ซึ่งกลุ่มนี้จะเป็นตัวเพิ่มภูมิต้นทานให้แก่ร่างกายสามารถเพิ่มความสูงได้หากทานต่อเนื่องและทานในวัยเจริญพันธ์
รายละเอียดทั้งหมด :
Goat milk นมแพะทุกหยด ลดภูมิแพ้
เรื่องของนมแพะกับโรคภูมิแพ้มักจะเป็นเรื่องที่พูดถึงกันอยู่เสมอ การดื่มนมแพะเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้โรคภูมิแพ้บรรเทาลงและหายในที่สุด เป็นคำยืนยันของคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ที่หันมาบริโภคนมแพะเป็นประจำแทนการกินยา
กลไกการบำบัดโรคของนมแพะ
ไขมันในนมแพะที่มีบทบาทต่อระบบภูมิต้านทาน คือ กรดไขมันจำเป็นซึ่งได้แก่กรดไขมันลิโนเลอิค ซึ่งในน้ำนมแพะมีสูงถึง 0.95 กรัม/100 กรัม และกรดไขมันจำเป็น แอลฟาลิโนเลอิค (กลุ่มโอเมก้า3 ซึ่งในนมแพะมี อยู่ประมาณ 0.03 กรัม/ 100 กรัม) ซึ่งกลุ่มนี้จะเป็นตัวเพิ่มภูมิต้นทานให้แก่ร่างกาย
นอกจากนี้ยังมี กรดไขมันไม่อิ่มตัวสายโซ่สั้นและกลาง ซึ่งถือว่าเป็นกรดไขมันหลักที่มีประโยชน์ต่อผู้บริโภค ได้แก่ คาโพรอิค, คาพรีลิก และคาพริก ซึ่งมีอยู่ในน้ำนมแพะรวมถึง 0.46 กรัม/ 100 กรัม
อย่างไรก็ตาม ไขมันในน้ำนมแพะยังเป็นตัวลำเลียงวิตามินที่มีส่วนเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกายอีกด้วย เช่น วิตามินเอ และอี เป็นต้น
โปรตีนในน้ำนมแพะโดยรวมช่วยในการผลิตและรักษาปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาวให้คงที่และช่วยให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย จะมีการหลั่งสารแอนตีฮิสตามินออกมา ส่งผลเสริมสร้างภูมิต้านทานต่อการเกิดภูมิแพ้ในร่างกาย โปรตีนนมโดยเฉพาะซัลเตอีน เป็นองค์ประกอบสำคัญของกลูตาไทโอน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการปรับสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน มีรายงานพบว่า การแบ่งเซลล์และประสิทธิภาพในการดักจับสิ่งแปลกปลอมของเม็ดเลือดขาวลิมไพไซด์ จะมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อเซลล์ขาดสารกลูตาไทโอน
วิตามินในนมแพะมีส่วนช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย เช่น
วิตามินเอ ในนมแพะต่างจากนมโค ซึ่งอยู่ในรูปของเบต้าแคโรทีน แต่ในนมแพะจะอยู่ในรูปของวิตามิน เอ โดยตรง ซึ่งจะช่วยเพิ่มการทำงานของเซลล์ที่ดักจับเชื้อโรค ที่เข้าสู่ร่างกายและยังทำหน้าที่เป็นด่านป้องกันเชื้อโรคในส่วนเยื่อบุผนังปาก ปอด และ ลำไส้ ฯลฯ
วิตามิน บี6 ช่วยเซลล์เม็ดเลือดขาวสร้างแอนติบอดี้
วิตามิน ซี ป้องกันเซลล์เม็ดเลือดนิวโทรฟิล ซึ่งทำหน้าที่ดักจับเชื้อแบคทีเรียและช่วยกำจัดอนุมูลอิสระในร่างกาย หรือสิ่งสกปรกที่เกิดจากสภาพแวดล้อม สารเคมี และควันบุหรี่
วิตามิน ดี ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม จากลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด ทำให้กระดูกแข็งแรง และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้
วิตามิน อี ช่วยเพิ่มการสร้างแอนติบอดี้ ช่วยสร้างเสริมการทำงานของ ทีเซลล์ ซึ่งทำหน้าที่หลักในการป้องกันการติดเชื้อร่วมกับ บีเซลล์
นอกจากนี้ วิตามิน อี ยังเป็นวิตามินที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและยังช่วยปรับสมดุลของน้ำและไขมันในชั้นผิวหนังและรักษาความชุ่มชื่นของผิวพรรณให้สดใส เรียบเนียนอีกด้วย อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายสามารถทนต่อรังสี UV ในแสงแดดได้ดีขึ้น
พบว่าในเกลือแร่ในนมแพะ ได้แก่ แคลเซียมมีฤทธิ์ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ด้วย โดย
แคลเซียม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวกับลิมโพไซด์ในการจับเกาะสิ่งแปลกปลอม เพิ่มการหลั่งสารในตัวกลาง ปฏิกิริยาการสร้างภูมิคุ้มกัน
ซิลีเนียม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์ที่ทำหน้าที่ภูมิคุ้มกัน สังกะสี ช่วยสร้างและเสริมการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว นิวโทรฟิล และเซลล์ดักจับ รวมทั้งป้องกันเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายโดยการลดไซโตไคท์ ซึ่งควบคุมการบวมอักเสบและสร้างบีและที เซลล์ให้แก่ร่างกาย
ลดปัญหาเรื่องไขมัน ป้องกันได้ด้วยนมแพะ
อันตรายของการมีระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง
เมื่อร่างกายมีระดับคลอเลสเตอรอลสูงเกินความต้องการ ไม่ว่าจะเกิดจากการที่ร่างกายสร้างขึ้นจากตับหรือได้รับอาหาร ปริมาณคลอเลสเตอรอลส่วนเกินจะไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือดและมีแนวโน้มที่จะเกาะกับผนังเส้นเลือด เมื่อมากขึ้นจะทำให้เส้นเลือดมีขนาดเล็กลง ความยืดหยุ่นของเส้นเลือดน้อยลงโดยเฉพาะเส้นเลือดหัวใจ ซึ่งเรียกว่า Atherosclerosis มีผลทำให้การไหลเวียนของเลือดลดลง ส่งผมให้เกิดโรคหัวใจหรือเส้นเลือดในสมองแตกได้ หรืออาจเกิดจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ หรือเป็นโรคบางอย่าง เช่น โรคไต โรคตับ โรคเบาหวานที่ไม่ได้รับการรักษา โรคต่อมไทรอยด์ทำงานได้น้อย เป็นต้น และไม่ว่าคลอเลสเตอรอลในเลือดจะสูงจากสาเหตุใดก็ตาม ก็สามารถคุกคามให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งได้เหมือนกัน โอกาสเกิดโรคหัวใจขาดเลือดสูง ร่างกายปกติระดับคลอเลสเตอรอลอยู่ในช่วง 150-250 mg/dl ส่วนระดับของไตรกลีเซอไรด์จะอยู่ระหว่าง 35-160 mg/dl ซึ่งหากผลการตรวจสอบระดับคลอเลศเตอรอลสูง มักจะพบระดับของไตรกลีเซอไรด์สูงตามด้วยปัจจัยเสี่ยงต่อผู้มีระดับคลอเลสเตอรอลสูง ได้แก่ ผู้ที่สูบบุหรี่และผู้ที่มีความดันโลหิตสูงจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจสูง
กลไกการบำบัดโรคของนมแพะ
คุณสมบัติพิเศษของนมแพะในเรื่องดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับกรดไขมันที่มีอยู่ในนมแพะ ได้แก่ คาโพรอิกคาพรีลิก และคาพริก กรดไขมันเหล่านี้ จะช่วยสลายการสะสมคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือด และยังช่วยปรับระดับไขมันในเลือดให้เลือดหมุนเวียนได้สะดวก จึงช่วยลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันและโรคหัวใจขาดเลือดได้
ดังนั้น เพื่อเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย โดยเฉพะคนที่เป็นภูมิแพ้ควรดื่มนมแพะประจำ ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิต้านทานมากขึ้น
นอกจากนี้ นมแพะยังมีกรดไขมันชนิดพิเศษที่วงการแพทย์ให้ความสนใจวามีส่วนช่วยยับยั้งการสร้างคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือด และยังช่วยสลายนิ่วในถุงน้ำดีได้อีกด้วย
วิธีเลือกซื้อนมแพะที่มีมาตรฐาน ควรพิจารณาจาก
- นมแพะที่ได้ อย. จากกระทรวงสาธารณสุข
- นมแพะที่ผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรส์ เพื่อความสะอาด และคงความสดของน้ำนมได้ดีกว่าวิธีอื่น
- นมแพะที่ผลิตจากโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน ซึ่งมีการควบคุมคุณภาพ และมีประสิทธิภาพในการผลิต โดยปศุสัตว์และผ่านมาตรฐานสินค้าคุณภาพ
http://learners.in.th/blog/doraemon/29544
* ทำไมนมแพะจึงใกล้เคียงนมแม่ที่สุด
ศ.นพ.อนุวัตร ลิ้มสุวรรณ แห่งคณะแพทย์ศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ซึ่งได้ศึกษาคุณค่าของสารอาหารและสรรพคุณต่างๆ ของนมแพะเปรียบเทียบกับนมแม่ พบว่านมทั้งสองมีความใกล้เคียงกัน คือ….
* มีกรดอะมิโนที่จำเป็นเหมือนกับนมแม่
กรดอะมิโนที่จำเป็น ( Essential amino acid) คือสารเคมีที่ร่างกายจะเอาไปสร้างโปรตีนในร่างกายมนุษย์ เพื่อซ่อมแซมอวัยวะที่สึกหรอของมนุษย์ ร่างกายสังเคราะห์สารตัวนี้ขึ้นมาเองไม่ได้ต้องรับมาจากอาหาร ทั้งนมแม่และนมแพะมีกรดอะมิโนที่จำเป็นนี้ทั้ง 10 ชนิด
* มีไขมันและกรดไขมัน ที่จำเป็น (Essential fathy acid) เหมือนกับนมแม่
ศ.นพ.อนุวัตร ลิ้มสุวรรณ บอกว่าในนมแม่และนมแพะ จะมีกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวเป็นส่วนใหญ่ และเป็นชนิดสายโซ่แบบสั้น จึงกระจายตัวได้ดี ร่างกายจึงย่อยง่ายและดูดซึมไปใช้เป็นประโยชน์ได้ดี โดยร่างกายสามารถดูดซึมนมแพะหมดภายใน 20-30 นาที ซึ่งนับว่าเร็วมาก นอกจากนี้ในนมแพะยังมีกรดไขมันพิเศษ คือ คาโพรอิก (Caproic) คาพริลิก (Carpylic) และ คาพริก (Capric) ซึ่งในวงการแพทย์เริ่มให้ความสนใจในกรดไขมันเหล่านี้ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีปัญหาของการดูดซึมอาหารบกพร่องหรือมีลำไส้เล็กผิดปกติ เพราะกรดไขมันเหล่านี้จะช่วยให้การดูดซึมของผู้มีปัญหาเหล่านี้ทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนั้นนมแพะยังมี DHA, EPA (โอเมก้า3) และ โอเมก้า 6 (ไลโนลินิคและไลโนเลอิก) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นในการพัฒนาสมองของมนุษย์โดยเฉพาะเด็กๆ และ เป็นกรดไขมันที่มีอยู่เช่นเดียวกันในนมแม่
* มีแร่ธาตุที่มีประโยชน์เหมือนกัน
ในนมแม่และนมแพะมีแร่ธาตุต่างๆ ที่มีปะโยชน์ต่อร่างกายเหมือนกันหลายชนิด เช่น….
* เลซิติน จะช่วยป้องกันการตกตะกอนของคอเลสเทอรอล โรคนิ่วถุงน้ำดี ช่วยยับยั้งและสลายการสะสม คอเลสเทอรอลในหลอดเลือดด้วย
* แคลเซียมและฟอสฟอรัส มีทั้งในนมแม่และนมแพะ ช่วยป้องกันโรคกระดูกอ่อนในเด็กได้
* แมกนีเซียม ช่วยเป็นองค์ประกอบของกระดูก ลดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยในการทำงานของเอ็นไซม์
ของกระบวนการสร้างโปรตีน ควบคุมการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
* วิตามินบีรวม ซึ่งเมื่อจับกับเอ็นไซม์ชนิดคาร์บอกซิเลส จะกระตุ้นให้เกิดการเผาผลาญของร่างกาย ให้สมบูรณ์และแข็งแรงขึ้น ช่วยการทำงานของประสาทและกล้ามเนื้อ
* โคลีน (Choline) เมื่อร่างกายรับประทานเลซิตินเข้าไปแล้ว ร่างกายจะเปลี่ยนเลซิตินเป็นโคลีน และสารโคลีนก็จะถูกเปลี่ยนไปเป็นอะซิติลโคลีน (Acethylcholine) ซึ่งเป็นสารที่ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงเซลล์ประสาท ช่วยให้การสื่อสารของเซลล์ประสาททำงานได้ดีขึ้น ช่วยในการบำรุงสมอง ทำให้วงจรความจำ และการเรียนรู้ดีขึ้น ซึ่งเป็นสารอาหารที่วงการพัฒนาสมองเด็กกำลังสนใจมาก
นอกจากสารอาหารต่างๆ ที่ว่ามาแล้ว ศ.นพ.อนุวัตร ลิ้มสุวรรณ เพิ่มเติมว่านมแม่และนมแพะยังมีสรรพคุณหลายอย่างที่ใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็น…
* ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้นม
อาการแพ้นมวัว คือการที่ร่างกายต่อต้านสารโปรตีนที่มีอยู่ในนมวัว โดยเฉพาะเคซีน (Casein) และเบต้า-แลคโตโกลบรูลิน (β-lactoglobulin) และ แอลฟ่า-แลคตาลบูมิน (α – Lactalbumin) จึงมีอาการท้องเสียหลังดื่มนมวัว จากผลการศึกษามากมายพบว่า ในนมแพะมีเอ็นไซม์ชนิดหนึ่งที่เรียก Platelet Activating Acetyl Hydrolase ซึ่งสามารถสลายสารก่อภูมิแพ้ก่อนให้เกิดการแพ้ จึงทำให้เด็กที่แพ้นมชนิดอื่นๆ สามารถดื่มนมแพะได้โดยไม่ต้องเผชิญกับอาการแพ้
* ไม่เพิ่มคอเลสเทอรอล
ในนมแพะมีอณูของไขมันและโปรตีนขนาดเล็กและกระจายตัวได้ดี จึงไม่ต้องไปตีให้แตกเป็นอณูขนาดเล็กอีก ซึ่งจะทำให้เกิดเอนไซม์ที่เรียกว่าแซนธิน ออกซิเดส (Xanthine oxidase) ที่เป็นสาเหตุให้คอ เลสเทอรอลตกตะกอนที่หลอดเลือดแดง ทำให้หลอดเลือดแคบลง
* ดูดซึมได้เร็วและย่อยได้ง่าย
อย่างที่คุณหมออนุวัตร ได้พูดถึงข้างต้นว่า ในนมแพะมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวและเป็นกรดไขมันจำเป็นชนิดห่วงโซ่สั้น ทำให้น้ำย่อยสามารถแทรกซึมเข้าไปช่วยย่อยสลายได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว นมแพะจึงย่อยง่ายและร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีเหมือนนมแม่ และยังช่วยลดการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้ด้วย จึงเหมาะสำหรับเด็กที่มีปัญหาในการย่อย เด็กที่ดื่มนมแพะจะไม่มีปัญหาอาเจียนหลังการดื่มนม
นอกจากนี้ ลักษณะของโปรตีนในนมแพะ เมื่อทำปฏิกิริยาในกระเพาะอาหารจะเกิดเป็นก้อน curd ที่นิ่มกว่านมวัว จึงทำให้นมแพะย่อยง่ายและรวดเร็วเช่นเดียวกับนมแม่
แม้ว่าเราอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับนมแพะนัก แต่ด้วยคุณสมบัติที่ดีต่างๆ เหล่านี้ นมแพะจึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคุณพ่อคุณแม่ที่ลูกกำลังมีปัญหาแพ้นมอยู่…